“มทบ23 “ประกอบพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณต่อธงชัยเฉลิมพล “วันกองทัพไทย”

“มทบ23 “ประกอบพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณต่อธงชัยเฉลิมพล “วันกองทัพไทย”

“วันกองทัพไทย” 18 มกราคม หน่วยทหารในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ประกอบพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณต่อธงชัยเฉลิมพล เป็นการน้อมรำลึกและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของบูรพระมหากษัตริย์ที่ทรงมีคุณูปการต่อประเทศชาติ เพื่อให้อนุชนรุ่นหลัง เหล่าทหาร และประชาชนชาวไทยได้สำนึกในบุญคุณของอดีตทหารหาญที่ได้เสียสละชีวิต เลือด เนื้อ ในการปกป้องรักษาอธิปไตยของประเทศชาติ พร้อมทั้งได้ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพล ซึ่งเป็นธงประจำหน่วยทหารที่มีความสำคัญยิ่ง และถือว่าเป็นตัวแทนขององค์พระมหากษัตริย์


เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2567 ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดขอนแก่นรายงานว่า ที่ ลานสวนสนามค่ายศรีพัชรินทร ตำบลศิลา อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น พลตรี วรพินิจ ขันธุปัฏน์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 23 พร้อมด้วย ผู้บังคับหน่วยทหาร และกำลังพลในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ประกอบพิธีสวนสนามกระทำสัตย์ปฏิญาณต่อธงชัยเฉลิมพล เนื่องใน “วันกองทัพไทย” ประจำปีพุทธศักราช 2567 ในเวลา 15.00 น โดยจัดกำลังสวนสนาม จำนวน 5 กองพันสวนสนาม จัดจาก กรมทหารราบที่ 8 และ กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 8, กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 8, กรมทหารม้าที่ 6 และ กองพันทหารม้าที่ 6 กรมทหารม้าที่ 6 ในพระองค์สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ, กรมทหารม้าที่ 7 และ กองพันทหารม้าที่ 14 กรมทหารม้าที่ 7 ในพระองค์สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ, กองพันมณฑลทหารบกที่ 23 และ กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 8 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 3


โดยมี พันเอก ภาณุมาศ คล้ายมงคล ผู้บังคับการกรมทหารม้าที่ 6 ในพระองค์สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ เป็น ผู้บังคับกองผสม ในการนี้ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 23 ได้นำกำลังพล กล่าวคำปฏิญาณตนอย่างพร้อมเพียงกัน ความว่า “ทหารทุกคนจะยอมตายเพื่ออิสรภาพและความสงบสุขแห่งประเทศชาติ จะอยู่ในศีลธรรมของศาสนา จักเทิดทูนและรักษาไว้ซึ่งพระบรมเดชานุภาพแห่งพระมหากษัตริย์เจ้า จักรักษาไว้ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จักเชื่อถือผู้บังคับบัญชา และปฏิบัติตนตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด ทั้งจักปกครองผู้ใต้บังคับบัญชาโดยยุติธรรม และจักไม่แพร่งพรายความลับของทางราชการทหารเป็นอันขาด” พร้อมทั้งถ่ายทอดโอวาท ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ที่มีต่อกำลังพลทุกนาย ต่อจากนั้น กระทำพิธีสวนสนาม เบื้องหน้าผู้บังคับบัญชา และแขกผู้มีเกียรติ พร้อมจัดขบวนยานยนต์สวนสนามประกอบด้วย ครื่องยิงลูกระเบิด ขนาด 120 มิลลิเมตร จาก กรมทหารราบที่ 8 ปืนใหญ่เบากระสุนวิถีโค้ง 95 ขนาด 105 มิลลิเมตร แบบ m101 A1 จากกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 8 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 3 และรถถังหลัก แบบ 60 (VT4) จากกองพันทหารม้าที่ 6 กรมทหารม้าที่ 6 ในพระองค์สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ เพื่อแสดงแสนยานุภาพของอาวุธยุทโธปกรณ์และกำลังพลกองทัพบกให้เป็นที่เชื่อมั่นแก่ประชาชน


สำหรับความสำคัญของ “วันกองทัพไทย” เมื่อปีพุทธศักราช 2135 สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงกระทำยุทธหัตถีมีชัยชนะต่อพระมหาอุปราชา ซึ่งถือว่าเป็นวันที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อประวัติศาสตร์ชาติไทย รัฐบาลจึงกำหนดให้ วันที่ 18 มกราคม ของทุกปี เป็น “วันกองทัพไทย” “วันยุทธหัตถี” และ “วันสมเด็จพระนเรศวรมหาราช” นอกจากนี้ ยังเป็นการน้อมรำลึกและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของบูรพระมหากษัตริย์ที่ทรงมีคุณูปการต่อประเทศชาติ เพื่อให้อนุชนรุ่นหลัง เหล่าทหาร และประชาชนชาวไทยได้สำนึกในบุญคุณของอดีตทหารหาญที่ได้เสียสละชีวิต เลือด เนื้อ ในการปกป้องรักษาอธิปไตยของประเทศชาติ พร้อมทั้งได้ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพล ซึ่งเป็นธงประจำหน่วยทหารที่มีความสำคัญยิ่ง และถือว่าเป็นตัวแทนขององค์พระมหากษัตริย์.



เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

แสดงความคิดเห็น