ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ปาฐกถาในงาน Local Economy 4.0

ปาฐกถา โดย ดร.สมคิด  จาตุศรีพิทักษ์ ณ.วันที่ 26 พค.60 ในงาน Local Economy 4.0
เราต้องรีบปรับแก้เศรษฐกิจท้องถิ่นให้แข็งแรง มิเช่นนั้นการเติบโตของเศรษฐกิจโลกจะกระทบกับเรามากมาย  เราต้องทำให้ธุรกิจท้องถิ่นมีความเข้มแข็งด้วยตัวเอง
“เจดีย์ต้องใหญ่และแข็งแรง”
เรามี 8,000ตำบล
ทำอย่างไรให้มี “กิจกรรมทางเศรษฐกิจ” ต้องสร้างให้ได้โดยต้องช่วยกันคิดและทำระหว่างท้องถิ่นและองค์กรณ์ภาครัฐ
หัวใจกิจกรรมคือ  “ผลิตอะไร”
การผลิตอะไรต้องเปลี่ยนไปตามโลกมิใช่แค่แบบเดิมๆ
“เรามีหน้าที่ช่วยกันคิดโดยเฉพาะกระทรวงพาณิชย์ มีหน้าที่ช่วยคิดมิใช่ควบคุม” โดยต้องร่วมกันหารือกับกระทรวงอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
“จะปลูกอะไร และผลิตอย่างไร”
ต้องมีเทคโนโลยี่เพื่อพัฒนาผลผลิต
ทำให้มีราคาขึ้น
พาณิชย์  เกษตร  มหาดไทย  ธกส.
ต้องมาช่วยกันดูว่าจะต้องปรับตรงไหน  ผู้นำชุมชนต้องรวมตัวกันทำ
Smart farmer เกษตรกรหนุ่มสาว
สามารถเป็นผู้นำได้ ดึงมาร่วมกันทำงาน แลกเปลี่ยนความรู้ในการปลูกและแปรรูปเพื่อร่วมพัฒนา
ราชการต้องเข้าไปช่วย ให้ความรู้ และช่วยเหลือ
Change management ไม่ง่ายแต่ต้องทำให้เกิดขึ้น
ไม่ใช่มีแค่เกษตร  มีปศุสัตว์  การท่องเที่ยว แม้แต่ฟุตบอล ก็ถือเป็น “กิจกรรมเศรษฐกิจ”
เป็นเรื่องสำคัญที่  อบต. อบจ.
นักการเมือง ต้องช่วยกันคิดกันทำ
พาณิชย์จังหวัดต้องคิดและทำ
เมื่อผลิตแล้วต้องมีตลาดที่เป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยน
พาณิชย์ต้องสร้างตลาดชุมชน
“ตลาดเฉพาะอย่าง” อยากให้มี
เช่นญี่ปุ่นมีตลาดอาหารทะเล
อยากให้ช่วยคิดว่าเราควรมีตลาดอะไรและนำสินค้ามาจากไหน
สร้างตลาดชุมชนเฉพาะอย่าง ประจำจังหวัด ช่วยกันคิดและทำ
พาณิชย์ต้องทำเพื่อให้เกิด
“ลัทธิเอาอย่าง” เมื่อทุกคนทำก็จะทำให้เศรษฐกิจท้องถิ่นมีความเข้มแข็ง
ตลาดเฉพาะอย่างเช่น “ตลาดทุเรียน” เกิดได้เพราะจีนหลงไหลในทุเรียนไทยมากๆ
ผปก. และพาณิชย์จังหวัด  รวมทั้งองค์กร เกี่ยวข้องต้องทำให้เกิดการซื้อขายกันในชุมชน และระหว่างชุมชน ซึ่งก็จะทำให้ขยายไปประเทศรอบบ้านเราได้
“อย่าเก่งแต่ในบ้าน” นักธุรกิจควรไปtake over กิจการอาหารเกตรในต่างแดน และส่ง สค.ไทยออกไปขาย
คนไทยเที่ยวในประเทศน้อย  ฉะนั้น ททท. ต้องส่งเสริมให้มีการท่องเที่ยวให้ทั่วทุกท้องถิ่นให้ได้
เรามีนักท่องเที่ยว 30 ล้านคน
แต่เป็นการเที่ยวนั้นเป็นกระจุกไปในที่เดิมๆเช่นเชียงใหม่  ภูเก็ต  เราต้องทำให้ท้องถิ่นในประเทศทุกที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวให้ได้
เพชรบุรีขนมไทยอร่อยสุดๆ ทำไมคนไม่ค่อยเที่ยว ข้ามไปเที่ยวหัวหินเลย เราต้องช่วยกันโดยวิสาหกิจชุมชน และ ททท. โดยจัดการพื้นที่และการเดินทางให้น่าท่องเที่ยว
ตัวอย่างเช่น  อยุธยา มีstory
อุตรดิตร์  มีผลไม้
ต้องสร้างหมู่บ้าน otop ต้องพานักท่องเที่ยวไปดูวิธีการทำ ตั้งแต่ต้น และตั้งตลาดตรงนั้นขายตรงนั้นเลย
ต้องคิดว่า ใครเป็นผู้ซื้อ  ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง ต้องคิดว่าชอบซื้ออะไร
ผลิตสินค้าที่ผู้หญิงต้องการซื้อแล้วเค้าก็จะมีผู้ชาย ละลูกตามมาซื้อได้
ต้องช่วยคิดตลาดประชารัฐ แบบมีconcept และนำมาโปรโมทร่วมกับ ททท  และก็จะเกิดทุกอย่างตามมา อำนวยความสะดวก  เช่นถนนยางมะตอย เดินนุ่มและไม่ร้อน
การท่องเที่ยวจะพานักท่องเที่ยวเข้ามา และจะต่อเนื่องไปยังประเทศรอบด้าน  เช่น ลาว เขมร
 7 จังหวัด ด้านฝั่งโขง เช่น เลย บึงกาฬ หนองคาย อุบล มุกดาหาร จะส่งเสริมการท่องเที่ยว 2 ฝั่งโขง
ล่องเรือได้ สร้างสะพาน ข้ามสู่กันไปมา ซื้อขายแลกเปลี่ยนกัน
ต้องคิดสร้าง”สินค้าชุมชน”
“ตลาดประชารัฐไทย ลาว”
พาณิชย์ต้องคิด อย่าแค่นั่งเซ็นต์เอกสาร
“ตลาดประชารัฐ” ต้องระดมช่วยกันคิด พาเด็กรุ่นใหม่เข้ามาระดมความคิด เอาราชการ เอกชน เข้ามาช่วย
นำงบสู่จังหวัดเพื่อส่งเสริม
ตำบลคือหัวใจ รัฐต้องนำหมู่บ้านมาช่วยกันสร้างสินค้าเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจทัองถิ่น
พาณิชย์จังหวัดมีหน้าที่ช่วย จังหวัดทำเลย ไม่ต้องรอส่วนกลางอนุมัติทำให้ยุ่งยากและชักช้า
อุปสรรคสำคัญคือ ทัศนคติ
ต้องเปลี่ยน attitude ของคนทำงานให้ถูกต้อง
เพชรบุรี ต้องสร้างตลาดขนมเพราะอร่อยที่สุดในประเทศ
สร้าง ศูนย์ประชารัฐขนมเพชรบุรี
เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น
ชุมชนคือฐานสำคัญของเศรษฐกิจ
สังคม คนชรา เด็กเล็ก จะดูแลกันอย่างไร สร้างการศึกษากันแบบไหน
สาธารณะสุข จะดำเนินการอย่างไร
ผู้ว่า และ พาณิชย์ต้องร่วมกันคิดและทำ ทำทันทีไม่ต้องรอส่วนกลาง
ประชาธิปไตยจะแข็งแรง ต่อเมื่อสังคมแข็งแรง
ประชารัฐจะสร้างผู้นำชุมชน และนักการเมืองที่เข้มแข็งรักประชาชน
ต้องมียุทธศาตร์เศรษฐกิจของประเทศ ภาค ชุมชน หมู่บ้าน
ประเทศเราในเวลานี้เปรียบเหมือนคนไข้เพิ่งลุกจากเตียง
ต้องช่วยกันทุกฝ่ายเพื่อการฟื้นตัว
ความเชื่อมั่นต้องมี ช่วยกันอุดจุดอ่อน  ทุกคนต้องช่วยกันเพราะประเทศเป็นของทุกคน
มันจะไม่ไปไหน ถ้าข้าราชการไม่ขับเคลื่อนตามนโยบายเศรษฐกิจ
การปฏิรูปเศรษฐกิจต้องให้ทุกหน่วยงานเดินตามอย่างแข็งแรง
หน่วยงานใดไม่เดินตามให้จัดการ
“เชือดไก่ให้ลิงดู” ทันทีเลย

ประเทศเราในเวลานี้เปรียบเหมือนคนไข้เพิ่งลุกจากเตียง

ต้องช่วยกันทุกฝ่ายเพื่อการฟื้นตัว

ความเชื่อมั่นต้องมี ช่วยกันอุดจุดอ่อน  ทุกคนต้องช่วยกันเพราะประเทศเป็นของทุกคน



เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

แสดงความคิดเห็น