อินเตอร์ลิ้งค์ จับมือภาครัฐ จัดแข่งขันทักษะฝีมือสายสัญญาณปี 6  รอบคัดเลือกภาคอีสานชิงถ้วยพระราชทาน “Cabling Contest 2018”

เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2561  ที่โรงแรมอวานี  ขอนแก่น นายสันติ เหล่าบุญเสงี่ยม รองผู้ว่าราชการ จังหวัดขอนแก่น เป็นประธานเปิดงาน “สุดยอดฝีมือสายสัญญาณ ปี 6 (Cabling Contest 2018)”     บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) ร่วมกับภาครัฐ กระทรวงดิจิตัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงแรงงาน จัดโครงการแข่งขัน “สุดยอดฝีมือสายสัญญาณ ปี 6 (Cabling Contest 2018)” รอบคัดเลือกภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เปิดโอกาสให้  นักศึกษาได้เรียนรู้เทคโนโลยีสายสัญญาณที่ดีที่สุดในยุคปัจจุบันผ่านการแข่งขันทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ โดยผู้ชนะจะได้เข้าไปแข่งขันรอบสุดท้าย ชิงถ้วยพระราชทาน พร้อมเงินรางวัลมูลค่ากว่า 400,000 บาท และมีโอกาสเป็นตัวแทนของประเทศไทยในการแข่งขันระดับโลก World Skills ASEAN

จากความสำเร็จของโครงการ “สุดยอดฝีมือสายสัญญาณ (Cabling Contest)” ตลอด 5 ปี ที่ผ่านมา ที่ผ่านมา นับเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ของวงการการศึกษาด้านเทคโนโลยีการสื่อสาร บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารกระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงแรงงาน จัดโครงการ สุดยอดฝีมือสายสัญญาณ (Cabling Contest) ขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 เพื่อเปิดโอกาสให้นักศึกษาทั้งในระดับปริญญาตรี และระดับอาชีวศึกษา ได้เรียนรู้สายสัญญาณที่ดีที่สุดในยุคปัจจุบันผ่านกิจกรรมการอบรมและแข่งขัน ซึ่งจะช่วยพัฒนาศักยภาพนักเรียน นักศึกษา พร้อมต่อยอดทักษะและความรู้ในเวทีระดับโลก ยกระดับคุณภาพสถานศึกษาให้ทัดเทียมระดับนานาชาติ รองรับการเกิดขึ้นของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ซึ่งประสบการณ์ผู้ที่เข้าร่วมการแข่งขันจะได้รับในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการพัฒนาทักษะฝีมือแล้ว ยังก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติ เพราะจะนำไปสู่การพัฒนาเทคโนโลยีสายสัญญาณในประเทศไทยอีกด้วย

โดยจะจัดรอบคัดเลือกทั่วทุกภูมิภาค ซึ่งภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้มาจัดกันที่จังหวัดขอนแก่น ซึ่งมีน้องๆ ให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการจากหลากหลายสถาบันกว่า 300 คน

ผู้ผ่านการคัดเลือก 55 คนจากทั่วประเทศ จะได้รับสิทธิ์เข้าไปแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ในวันที่ 29 พย – 1 ธค 61  ซึ่งนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณและขวัญกำลังใจอย่างยิ่งที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระราชทานถ้วยรางวัลให้แก่ผู้ชนะเลิศ พร้อมเงินรางวัลมูลค่า 100,000 บาท ส่วนรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 จะได้รับถ้วยเกียรติยศจากนายกรัฐมนตรี พร้อมเงินรางวัล 50,000 บาท และรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 จะได้รับถ้วยเกียรติยศจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกระทรวงดิจิตัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พร้อมเงินรางวัล 30,000 บาท