นักวิจัย มข.พัฒนากระบวนการผลิตก๊าซไฮเทน พลังงานทดแทนใหม่จากน้ำอ้อย

วันศุกร์ที่ 22 กันยายน 2560  ที่สำนักงานอธิการบดี  มหาวิทยาลัยขอนแก่น ศ.ดร. อลิศรา เรืองแสง ภาควิชาเทคโนโลยีชีวภาพ คณะเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้แถลงข่าวกับสื่อมวลชนถึงเรื่อง การพัฒนากระบวนการผลิตก๊าซไฮเทน พลังงานทดแทนใหม่จากน้ำอ้อย   เป็นที่ทราบกันดีว่าประเทศไทยกำลังขับเคลื่อนเชิงนโยบายเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทยให้เป็นเศรษฐกิจใหม่ (New Engines of Growth) โดยมุ่งเน้นการวิจัย ผนวกความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรม วิทยาศาสตร์  ตลอดจนเทคโนโลยีชีวภาพ เพื่อขับเคลื่อนนำพาประเทศไทยไปสู่เป้าหมายไทยแลนด์ 4.0    มหาวิทยาลัยขอนแก่น ในฐานะศูนย์รวมองค์ความรู้แห่งภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  จึงสนองตอบนโยบายรัฐ โดยการผลิตงานวิจัยที่ตอบโจทย์ ด้านเทคโนโลยีชีวภาพ  มุ่งเน้นให้เกิดพลังงานทดแทนที่สามารถต่อยอดในเชิงพาณิชย์  ภายใต้ผลงาน ชื่อ การพัฒนากระบวนการผลิตก๊าซไฮเทน พลังงานทดแทนใหม่จากน้ำอ้อย ผลงานวิจัยของ ศ.ดร. อลิศรา เรืองแสง ภาควิชาเทคโนโลยีชีวภาพ คณะเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยขอนแก่น

ศ.ดร. อลิศรา เรืองแสง เปิดเผยว่า การวิจัยครั้งนี้เป็นการใช้ประโยชน์จากน้ำอ้อยเพื่อผลิตพลังงาน ซึ่งเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการใช้ประโยชน์จากอ้อย นอกเหนือจากการใช้ผลิตน้ำตาล โดยได้รับทุนสนับสนุนการวิจัยจากสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาล และจากสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.)  ขั้นตอนการวิจัยเริ่มจากการผลิตไฮโดรเจนในถังหมักไฮโดรเจนโดยใช้น้ำอ้อยเป็นวัตถุดิบในการผลิตภายใต้กระบวนการหมักแบบไร้อากาศ น้ำหมักจากกระบวนการผลิตไฮโดรเจนถูกส่งไปใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตมีเทนในถังหมักมีเทนต่อไป แก๊สไฮโดรเจนและมีเทนที่ผลิตได้ถูกนำมาผสมกันได้แก๊สผสมระหว่างไฮโดรเจนและมีเทนที่เรียกว่า “ไฮเทน” (hythane) ไฮเทนที่ผลิตได้ถูกนำไปทดลองผลิตกระแสไฟฟ้าในเครื่องปั่นไฟขนาดเล็ก ผลการทดสอบกับเครื่องยนต์พบว่า ไฮเทนสามารถใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องปั่นไฟได้เป็นอย่างดี โดยมีประสิทธิภาพการทำงานที่ใกล้เคียงกับการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงปกติ และค่าการสึกหรอของเครื่องปั่นไฟที่ใช้ไฮเทนก็ไม่มีความแตกต่างกับเครื่องปั่นไฟที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงปกติ

ไฮเทนมีค่าพลังงานสูงกว่าแก๊สธรรมชาติ (CNG) การใช้ไฮเทนในเครื่องยนต์สันดาปภายในจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเครื่องยนต์ ช่วยให้ประหยัดเชื้อเพลิง  และช่วยลดการปลดปล่อยแก๊สเรือนกระจกและสารประกอบไฮโดรคาร์บอนลงได้มากกว่า 80% เมื่อเทียบกับการใช้แก๊สธรรมชาติ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของไฮเทนที่สามารถนำไปพัฒนาต่อยอดเป็นเชื้อเพลิงทางเลือกในอนาคตของประเทศไทยได้เป็นอย่างดี

นอกจากน้ำอ้อยแล้ว วัตถุดิบอื่นๆ สามารถนำไปใช้ในการผลิตไฮเทนได้เช่นกัน เช่น น้ำเสียจากโรงงานผลิตแป้งมันสำปะหลัง น้ำเสียจากโรงงานผลิตน้ำตาล และของเหลือทิ้งจากอุตสาหกรรมเกษตร เช่น ชานอ้อย ลำต้นปาล์มน้ำมัน เป็นต้น ดังนั้นงานวิจัยนี้จึงสามารถนำไปใช้เป็นต้นแบบสำหรับการผลิตไฮเทนจากชีวมวลชนิดอื่นๆ ได้อีกด้วย ซึ่งจัดว่าเป็นการต่อยอดวัตถุดิบที่มีอยู่ภายในประเทศและของเหลือทิ้งจากอุตสาหกรรมเกษตรให้เป็นเชื้อเพลิงที่มีประสิทธิภาพสูง

ไฮเทนมีค่าพลังงานสูงกว่าแก๊สธรรมชาติ (CNG) การใช้ไฮเทนในเครื่องยนต์สันดาปภายในจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเครื่องยนต์ ช่วยให้ประหยัดเชื้อเพลิง  และช่วยลดการปลดปล่อยแก๊สเรือนกระจกและสารประกอบไฮโดรคาร์บอนลงได้มากกว่า 80%

นักวิจัย มข.พัฒนากระบวนการผลิตก๊าซไฮเทน พลังงานทดแทนใหม่จากน้ำอ้อย หนุนอุตสาหกรรมสีเขียวยุค 4.0



เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

แสดงความคิดเห็น